ในช่วงที่ฝนตกได้ทุกวี่ทุกวันเช้าเย็นๆ แบบนี้ สิ่งที่ทุกคนค่อนข้างจะกังวลก็คือปัญหาเรื่องน้ำท่วม กลัวว่าน้ำจะท่วมหนักแบบปี 2554 จนสร้างความเดือนร้อนปั่นป่วนกันทั้งบ้านทั้งเมือง ซึ่งปัญหาเหล่านี้นอกจากจะสร้างความวุ่นวายให้กับชาวบ้านคนปกติทั่วไปแล้ว ปัญหาน้ำท่วมยังสร้างความเหนื่อยอกเหนื่อยใจให้กับเจ้าของรถยนต์กันอีกด้วย วันดีคืนดีจอดรถยนต์ดีๆ เช้ามาน้ำท่วมซะอย่างนั้น หากใครที่ทำประกันภาคสมัครใจเอาไว้ก็สบายใจได้เลยว่าจะได้รับการชดเชยเมื่อเกิดน้ำท่วมแน่นอน แต่จะเป็นประกันรถยนต์ชั้นไหนล่ะที่ให้ความคุ้มครองเมื่อน้ำท่วม ตามไปดูกัน
ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ของคุณ บริษัทประกันภัยจะแบ่งความเสียหายออกเป็น 2 ส่วน คือ
เป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์เฉพาะบางส่วนเท่านั้น สามารถซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดขึ้นให้กลับมาใช้งานได้ดังเดิม โดยบริษัทประกันภัยจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช่จ่ายที่เกิดขึ้นตั้งแต่เงินค่าซ่อมระบบเครื่องยนต์ไปจนถึงเงินค่าทำความสะอาดสิ่งสกปรกภายในรถยนต์ หลังจากที่ซ่อมรถเรียบร้อย ถ้าพบว่ารถยนต์มีปัญหาขัดข้อง เจ้าของรถยนต์สามารถแจ้งเคลมความเสียหายแบบต่อเนื่องได้อีกด้วย
เป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์โดยสิ้นเชิง ไม่สามารถซ่อมแซมให้กลับมาวิ่งบนถนนได้แบบเดิม เช่น น้ำท่วมเกินคอนโซลหน้า หรือน้ำท่วมมิดคัน จนห้องโดยสารเกิดความเสียหายทั้งหมด ถ้าเกิดกรณีแบบนี้ขึ้นบริษัทประกันจะประเมินความเสียหายให้อยู่ที่ 70% ของราคารถยนต์ เมื่อบริษัทประกันจ่ายเงินชดเชยความเสียหายให้คุณแล้ว รถยนต์คันนั้นจะถือว่าเป็นทรัพย์สินของบริษัทประกันโดยทันที
แต่จะมีบางกรณีที่บริษัทประกันจะไม่จ่ายเงินชดเชยให้ เช่น เจ้าของรถยนต์เห็นว่าทางข้างหน้ามีน้ำท่วมสูงแต่ก็ยังดันทุรังขับรถลุยน้ำไปจนเครื่องยนต์ดับกลางทาง แบบนี้ต้องเถียงกับบริษัทประกันยาว เผลอๆ ต้องจ่ายเงินค่าซ่อมรถเองอีก ทางที่ดีถ้าเห็นว่ามีน้ำท่วมขังสูง จนไม่สามารถขับผ่านไปได้ ก็อย่าลุยเลยให้หลีกเลี่ยงเส้นทางเหล่านั้นจะดีที่สุด
แหล่งรวบรวมความรู้ประกันภัย แบบฉบับ ง่าย ๆ ไม่ว่าใครก็อ่านได้